เที่ยวภาคใต้ ถนนนครนอก -เที่ยวเกาะค้างค้าว- ปล่อยเต่าตนุ
สำหรับการท่อง เที่ยวภาคใต้ นับเป็นดินแดนที่น่าหลงใหลอยู่ไม่ใช่น้อย เป็นสิ่งล่ำค่าทางวัฒนธรรมทีเลื่องลือ อีกทั้งความเป็นกันเองของชาวใต้ที่สำเนียงของคนที่นั้นเป็นเอกลักษณ์ฟังแล้วสบายหู ถึงอาจจะเป็นคำพูดที่ดูจะฟังแล้วแปลก ๆ แต่ว่าสำเนียงที่เป็นภาษาถิ่นทำให้หลายคนชอบ
ลองไปใต้กันบ้างไหม
หลังจากที่เราได้ไปเชยชมสถานที่ท่องเที่ยวมามากแล้ว ไม่ว่าจะภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ซึ่งเรายังมีอีกภาคหนึ่งที่หลายคนยังไม่ได้ไปเยือนนั้นก็คือภาคใต้ เราขอพาทุกท่านมาพบจังหวัด สงขลา โดยเลือกพาทุกคนมากับถนนสายหนึ่งที่นับว่าเป็นถนนเก่าแก่ ถนนนครนอกเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์มาอย่างช้านาน ด้วยที่ครั้งอดีตเป็นย่านเก่าที่คึกคักไปด้วยผู้คนที่ผ่านไปมา อีกทั้งโรงสีที่เด่นชัดในเรื่องของความแปลกล้ำ นั้นก็คือโรงสีที่มีสีแดงเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่เป็นสถาปัติยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสทำให้ดูกลมกลืนของการร่วมสมัย
ถนนสายของกิน
หากผ่านมาถนนนครนอกนี้ก็จะได้พบกับความหอมของ 2 ข้างทางเพราะที่ย่านนี้ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของความอร่อยของอาหาร ซึ่งจะมีร้านดั้งเดิมอยู่มาก แต่หากจะให้จำชื่อแต่ละร้างคงไม่ไหวเพราะมีมากเหลือเกิน นับเป็นเสน่น์อย่างหนึ่งของที่นี่
โครงการสงขลามหาสนุก
ไม่เพียงเท่านั้นจังหวัดสงขลายังได้มีการจัดในรูปแบบของโครงการที่จะเป็นการชักนำนักท่องเที่ยวให้นิยมมาเที่ยวกันนั้นก็คือโครงการ สงขลามหานุก ที่จะเป็นโครงการหนึ่งที่จะทำให้กระตุ้นการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยจะมีการจัดที่ถนนนครนอกวันที่ 2 ของเดือน เวลา 17 นาฬิกา จนถึง22 นาฬิกา
อีกทั้งยังไม่จบเพียงแค่นี้ เมืองสงขลายังมีริมหาดที่งดงามได้ด้วยทิวธรรมชาติความงามที่น่าหลงไหลอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งมีท่าเรือการประมงมีให้เราได้ดูและรับชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อย่างโรแมนติกกับคู่หวานใจ
ไปเที่ยวเกาะค้างคาว
การเที่ยวเกาะถือเป็นทิปหนึ่งที่ถือว่าเป็นสวรรค์ของใครหลาย ๆ คนซึ่งนั้นก็เป็นคงเป็นความชอบของผมด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหากจะไปเที่ยวทะเลนั้นส่วนใหญ่จะเที่ยวทางริมชายหาดมากกว่า ซึ่งเป็นการพลาดอย่างน่าเสียดายที่ไม่ได้มาเที่ยวเกาะ ก็ด้วยไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเที่ยวเกาะเท่าไหร่อีกทั้งยังต้องเสียเงินค่าเรืออีก
ทำความรู้จักกับเกาะค้างคาว
สำหรับมาเดินทางมาเที่ยวที่เกาะค้างคาวที่จังหวัดระนอง ประเทศไทยเรานี่เอง ซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติแหลมสนประมาณ 9 กิโมตรได้ และเราจำเป็นต้องนั่งเรือไปที่เกาะค้าวคาวซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 40 นาที ถือว่าชมวิวทิวทัศน์ไปในตัวโดยที่เกาะนี้มีทราบขาวละเอียด สำหรับด้านเหนือของเกาะนั้นจะมีหินกลมแบนเรียงราบไปทั่วชายหาด
บรรยากาศบนเกาะ
ที่มารีวิวในครั้งนี้ผมได้มีโอกาศมาสัมผัสบรรยากาศริมเกาะครั้งแรก ซึ่งนับว่าเป็นความงามทางธรรมชาติที่บนชายหายไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย เพราะที่นี่นอกจากมีความเงียบสงบด้วยเพราะมีผู้คนไม่มากนักดังนั้นเหมาะมากสำหรับการนั่งพักที่มีสายลมพัดผ่านมาสัมผัสกาย แหละที่สำคัญใครที่ชื่นชอบในการดำน้ำชมปะการังหรือยังไม่เคยมาสัมผัสก็สามารถมาดูได้ที่นี่เกาะค้างคาว ด้วยน้ำที่ใสสะอาดทำให้เราสามารถดูปะการังได้อย่างสวยงามมาก
ทำไมถึงตั้งชื่อว่าเกาะค้าวคาว
ใครที่สงสัยชื่อของเกาะว่าเหตุไหนถือชื่อว่าเกาะค้างคาวก็เพราะว่า เมื่ออดีตนั้นมีถ้ำที่มีค้างคาวแม่ไก่อาศัยอยู่ชุกชุมเป็นจำนวนมากบนถ้ำ ดังนั้นการเรียกชื่อของเกาะจึงเรียกให้สอดคล้องกัน
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระนองนี้ก็ขอฝากสำหรับคอเที่ยวทั้งหลายไว้ด้วย หากผ่านไปมาอย่างลือที่จะแวะมาเชยชมความงามของเกาะค้างคาวกันนะครับ รับรองได้ถึงทิวทัศน์อันงดงามไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน
ปลูกจิตสำนึก…เพื่อวันใหม่ที่งดงาม พังงา
เต่าตนุค่อยๆเดินตั้วมเตี้ยวอย่างช้าๆทีเล็กน้อย กำลังคลานเข้าหาชายทะเล ซึ่งเป็นภาพหนึ่งที่หลายคนจดจำได้ดี ซึ่งหากมีกล้องถ่ายรูปจะบันทึกเก็บไว้ไม่เคยลืม ในขณะที่สายลมในริมชายหาดที่พัดผ่านเข้ามาทำให้จิตใจที่เย็นอยู่แล้วรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นมาทันที เต่าทั้งหมดที่กำลังจะกลับสู่ท้องทะเลนั้น แต่ละตัวต่างตื่นเต้นที่กำลังจะได้ไปว่ายน้ำอันใสสะอาดหลังที่จากอยู่กับมนุษย์มานาน
งานประจำปีของจังหวัดพังงา
ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จังหวัดได้มีการจัดงานสิ่งดีๆแบบนี้ด้วยการปล่อยเต่าตนุลงคืนสู่กลับทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์พันสัตว์และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนได้รับรู้ถึงคุณค่าของทะเลกัน ซึ่งเป้นที่ทำมาหากินของคนที่นี่อยู่แล้ว โดยมีงานประจำปีปล่อยเต้าตนุลงสู่ทะเล ที่อำเถอท้ายเมือง จังหวัดพังงา ที่ประเทศไทยเรานี่เอง
ไปปล่อยเต่าตนุพร้อมๆกัน
ซึ่งวันนี้เราจะขอพาทุกคนมาเที่ยวที่จังหวัดหนึ่งที่นับได้เลยว่าเป็นจังหวัดยอดนิยมที่หลายคนไม่พลาดหากได้มาเที่ยวทะเล ซึ่งที่จังหวัดพังงามีประเพณีปล่อยเต่า ซึ่งเป็นงานประจำปีที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งโดยมีความร่วมมือจากศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่ง ได้ทำการมอบเต่าตนุตัวน้อยๆที่พร้อมจะไปเผชิญกับท้องทะเลใหญ่อันไกลโพ้นได้แล้ว ดูจากสีหน้าทุกคนล้าวนมีความเบิกบานยิ่งนัก ซึ่งเป็นภาพที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั่วหน้า
กิจกรรมภายในงาน
นอกจากนี้แล้วไม่เพียงมีการปล่อยเต้าตนุเท่านั้น ยังมีกิจกรรมยังมีการแสดง นิทรรศการ งานออกร้าน และการเดินขบวนพาเหรด ซึ่งเป็นการเชิญชวนให้คนทั่วไปได้เข้ามาร่วมงานกันด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้นับเป็นสิ่งที่น่าส่งเสริมยิ่งนัก อีกทั้งยังเป็นการสร้างทรัพยากรธรรมชาติและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลไว้ด้วย หลายคนที่เข้ามาร่วมงามนั้นยังได้รับความรู้จากการท่องเที่ยวในจังหวัดพังงาด้วย
ทะเลนับเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับชาวพังงามาอย่างช้านาน ซึ่งทำให้หลายคนรักและหวงแหนทะเลอันแสนสวยที่นี่มาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่อยากจะเที่ยวทะเล อย่าลืมไปเที่ยวกันนะครับ